วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

2012 วันสิ้นโลก




2012 วันสิ้นโลก (มาสเตอร์)



ชื่ออังกฤษ 2012

ชื่อไทย 2012 วันสิ้นโลก

ประเภทหนัง Action/Sci-fi

ผู้กำกับ Roland Emmerich

วันที่เข้าฉาย 12 November 2009

ความยาวหนัง 143 minutes

นักแสดง John Cusack, Chiwetel Ejiofor, Amanda Peet, Thandie Newton, Oliver Platt, Danny Glover, Woody Harrelson

................................................

ตัวอย่างหนัง

...........................................................................................................

ที่ผ่านมามีคำทำนาย และทฤษฎีต่างๆ ที่ว่าด้วยการ ดับสลายของโลก เล่าขานสืบทอดต่อกันมามากมาย และเพื่อให้ทุกคนดู 2012 วันสิ้นโลก แบบได้อรรถรสยิ่งขึ้น ต่อไปนี้ คือ 5 ทฤษฎีว่าด้วย วันสิ้นโลก ที่เราเก็บมาฝากกัน

1.ทฤษฏีที่ได้รับการกล่าวขวัญและถูกอ้างอิงมากที่สุด (และเป็นไอเดียต้นคิดที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก ด้วย) คือ คำทำนายของชนเผ่ามายันที่ว่า โลกจะถึงคราวดับสูญใน วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยชุดตัวเลข 212012 โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน ซึ่งเริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (Baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี โดยคำทำนายได้ระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารไล่เรียงตั้งแต่ ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่ง ไปจนถึงสงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนไหนรอดชีวิต

2. นอกจากทฤษฎีวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ระนาบเดียวกับใจกลางของทางข้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะปะทะกับพลังงานทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เวลา 23.11 น. และสมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ของ ดีเอ็นเอ ซึ่งบางทีอาจจะทำให้ มนุษยชาติต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง!

3. มีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ภูเขาไฟใต้น้ำ ครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่ต้องระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

4. มีนักวิทยาศาสตร์บางรายบอกว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกจะเป็นภัยคุกคามที่ย้อนกลับมาทำลายล้างมนุษยชาติเองในท้ายที่สุด โดยในบทความเรื่อง “วันสิ้นโลก” ของ ไมเคิล แฮนลอน ในเว็บไซต์เดลี เมล์ ระบุว่า วันสิ้นโลก ที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากหายนะทั้งหลายตามคำทำนายใดๆ แต่มาจากภัยเงียบที่ก่อตัวมานาน ซึ่งมนุษย์ไม่เคยใส่ใจต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและเป็นจุดกำเนิดของเทคโนโลยีต่างๆ จนสามารถคิดค้นเครื่องจักรและหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพทัดเทียมความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที และจุดจบของโลกจะอุบัติขึ้นใน วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2065 โดยบรรดาหุ่นยนต์อันชาญฉลาดจะเริ่มเข้าควบคุมมนุษย์โลก ผู้คนทั้งหลายต้องขาดแคลนอาหาร ไร้ที่อยู่ และท้ายที่สุดในปี 2100 มนุษย์ต้องผันตัวเองกลับไปใช้ชีวิตในถ้ำอย่างในอดีต ขณะที่เมืองต่างๆ ก็ตกเป็นของเหล่าเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นเอง (เอ๊ะ! ทำไมคล้ายกับหนังเรื่อง คนเหล็ก จังเลย...ฮา)

5. ทฤษฎีแกนโลกเอียงของ ชาร์ล ฮาปกู้ด ที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ว่าในอนาคตข้างหน้า แกนโลกจะเริ่มเปลี่ยนองศา ซึ่งจะส่งผลให้พื้นผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และจะทำให้เกิดภัยพิบัตินานาชนิดขึ้นทั้ง คลื่นยักษ์สึนามิ, แผ่นดินไหว, ภูเขาไฟระเบิด มีคนเคยอ้างด้วยว่า แม้แต่ อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ ยังเห็นด้วยกับทฤษฎีที่ว่านี้

.................................................................................

2012 : วันสิ้นโลก!

เมื่อน้ำท่วม แผ่นดินลุกเป็นไฟ!




ถ้าเป็นจริงดั่งคำทำนายของชาวมายัน ในปี 2012 (หรือเพียงอีก 3 ปี) วาระสุดท้ายของโลกใบนี้ก็จะมาถึง แต่ก่อนที่เราจะรู้ว่า วันสิ้นโลก จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่? เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ โดย โรแลนด์ เอ็มเมอริช ผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าช่ำชองและเชี่ยวชาญการสร้าง หนังหายนะ (Disaster Film) ที่สุดคนหนึ่งของฮอลลีวู้ด 2012 วันสิ้นโลก มีจุดเด่น จุดดีตรงไหน ทำไมผู้คนทั่วโลกถึงได้เฝ้ารอชมหนังเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ ต่อไปนี้คือเหตุผล.......


โรแลนด์ เอ็มเมอริช เทพแห่ง หนังหายนะ


เห็นชื่อผู้กำกับคนนี้แล้ว เชื่อขนมกินได้ว่าการกลับมาทุกครั้งเขาจะต้องมีอะไรดีๆ มาอวดเราอย่างแน่นอน หลังจากที่เคยทำให้คนดูต้องอ้าปากค้างมาแล้วทั้ง Independence Day, Godzilla และ The Day After Tomorrow คราวนี้ โรแลนด์ เอ็มเมอริช จะทำให้คุณ อึ้ง ทึ่ง และตะลึง ยิ่งกว่า กับผลงานล่าสุด 2012 วันสิ้นโลก ซึ่งว่ากันว่าเป็น หนังหายนะ ที่มีสเกลใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยสร้างมา ด้วยทุนสร้างมหาศาลกว่า $200 ล้าน ในหนังเราจะได้เห็นโลกผจญกับหายนะทั้ง แผ่นดินไหว, แผ่นดินแยก, น้ำท่วม, ภูเขาไฟระเบิด, พายุถล่ม, ภูเขาน้ำแข็งละลาย ฯลฯ ซึ่งรับรองว่าคุณจะไม่เคยเห็นภาพแบบเดียวกันนี้ในหนังเรื่องไหนมาก่อนอย่างแน่นอน


จากคำทำนายที่เล่าขานสู่หนังจอใหญ่


ชาวเผ่ามายันมีคำทำนายไว้เมื่อหลายศตวรรษที่แล้วว่า วันที่โลกจะดับสูญคือวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ซึ่งตามวัน และปี ค.ศ. นี้ได้ปรากฏอยู่เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวเผ่ามายัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ซึ่งไอเดียต้นคิดของหนังเรื่องนี้ก็มาจากคำทำนายดังกล่าวของเผ่ามายันนั่นเอง โดยทีมผู้สร้างได้ยึดเอาปี 2012 ซึ่งเป็นปีเกิดเหตุตามคำทำนายเอาไว้ และใส่มหันตภัยต่างๆ ที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในวันสิ้นโลกจากทฤษฎีต่างๆ ลงไปในหนัง



ซีจี/สเปเชียล เอฟเฟ็กต์ ระดับสุดยอด




กว่าครึ่งหนึ่งของหนังเรื่องนี้เป็นงานวิชวล เอฟเฟ็กต์ และซีจี ที่ว่ากันว่ามีมากถึง 1,400 ช็อตเลยทีเดียว ซึ่งต้องระดมทีมเอฟเฟ็กต์มือดีกว่า 80 คน มาช่วยกันสร้างสรรค์จนได้ภาพที่เนียนสมจริงระดับนี้ออกมา นอกจากนี้ ทางทีมงานยังต้องสร้างฉากของจริงที่ลอยน้ำและสั่นสะเทือนได้ รวมถึงต้องสร้างเวทีขนาด 8,000 ฟุต ขึ้นมาประกอบฉาก เพื่อให้ทุกๆ ภาพออกมาดูสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


ทุกฉากที่จะทำให้คุณ อึ้ง ทึ่ง ตื่นตะลึง!


ด้วยความเป็น หนังหายนะ สเกลใหญ่โตมโหฬารแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน หลายๆ ฉากใน 2012 วันสิ้นโลก จะทำให้คนดูต้องอึ้ง ทึ่ง ตื่นตะลึง และขนลุกไปกับ งานภาพที่เนียนและสมจริงสุดๆ ไล่ไปตั้งแต่ ฉากแผ่นดินไหวถล่มเมือง แอล.เอ. จมสู่มหาสมุทรแปซิฟิค, ฉากตึกรามบ้านช่องในนิวยอร์คล้มระเนระนาด, ฉากภูเขาไฟระเบิดใน เยลโล่สโตน พาร์ค, ฉากคลื่นยักษ์ที่พัดเรือบรรทุกเครื่องบินลำมหึมามาถล่มทำเนียบขาว ไปจนถึงฉากการพังพินาศของ วิหารเซนต์ปีเตอร์ ในวาติกัน และรูปปั้นพระเยซูในกรุง ริโอ เดอ จาเนโร


เสริมด้วยเนื้อหา เข้มข้น มีสาระ



แน่นอนว่า 2012 วันสิ้นโลก จะต้องเน้นขายซีจีและสเปเซียล เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกัน หนังเรื่องนี้ก็มีเนื้อหาที่เข้มข้นหนักหน่วงกว่า หนังหายนะ หลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ด้วยการตั้งคำถามว่า ถ้าจะมีคนรอดชีวิต ใครควรจะเป็นบุคคลเหล่านั้น ตามท้องเรื่อง รัฐบาลอเมริกาทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และได้สร้างเรือขนาดยักษ์ขึ้นมาแบบลับๆ สำหรับรักษาสิ่งมีชีวิตในโลกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งแจ็คสัน (รับบทโดย จอห์น คูแซ็ค) พระเอกของเรา เกิดไปรู้ความลับที่รัฐบาลปกปิดเอาไว้ เขาจึงพยายามพาครอบครัวของเขาไปขึ้นเรือลำนี้ให้ได้

ไล่ไปตั้งแต่ชื่อผู้กำกับที่รับประกันความยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน พิสูจน์ได้จากผลงานที่ผ่านๆ มา ซึ่งทำมาแล้วทั้ง ยานอวกาศลำมหึมาที่ลอยอยู่บนทำเนียบขาว (ID4), เทพีเสรีภาพจมพายุหิมะ (The Day After Tomorrow), ก๊อดซิล่าบุกโลก (Godzilla), เสือเขี้ยวดาบและช้างแมมม็อธตัวยักษ์ (10,000 B.C.) สำหรับคราวนี้เขามาพร้อมกับซีจีระดับสุดยอด และสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ขั้นเทพ ที่จะเนรมิต อภิมหา “หายนะ” ซึ่งคุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนใส่ลงไปในหนังเรื่องนี้

......................................................................................................

ขอบคุณข้อมูล รูปภาพ http://www.majorcineplex.com/



th20121



th20122



th20123



th20124



th20125



th20126



th20127

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น